
สัญญาณออทิสติก รู้ก่อน เข้าใจก่อน
โรคออทิสติก
เป็นความผิดปกติของพัฒนาการที่มีผลต่อการสื่อสารและโต้ตอบกับผู้อื่นทั้งการใช้ ภาษาพูด
ท่าทาง รวมถึงพฤติกรรมหรือความสนใจที่จำกัดและซ้ำๆ
ออทิสติกเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต แม้ว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่สามารถบำบัดและช่วยผู้ป่วยออทิสติกในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้
อาการออทิสติกมักจะปรากฏครั้งแรกเมื่อ ยังเล็กมาก
ดังนั้นหากพ่อแม่มีการสังเกตอาการออทิสติกแต่เนิ่นๆ ทำให้พบในระยะแรกๆ
จะช่วยให้การปรับปรุงพัฒนาการอาการของเด็กออทิสติกได้ดียิ่งขึ้น อาการทางพฤติกรรมของโรคออทิสติกมักปรากฏในช่วงต้นของพัฒนาการในเด็กช่วงอายุ
12 - 18 เดือนหรือก่อนหน้านั้น โดยสัญญาณเริ่มต้นของออทิสติกอาจสังเกตได้จากความแตกต่าง
3 ด้าน ดังนี้ 1. ความแตกต่างทางสังคม
ลักษณะการแสดงออก คือ - ไม่ค่อยสบตา
ไม่สนใจใคร ไม่มองไปที่วัตถุหรือเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองชี้บอกกล่าว - ไม่แสดงออกทางสีหน้าหรือตอบสนองต่อรอยยิ้มของผู้ปกครอง - ไม่นำสิ่งของที่ตนเองสนใจมาแสดงต่อผู้ปกครอง - ไม่เอาใจใส่ต่อผู้อื่น
ชอบอยู่หรือเล่นคนเดียว 2. ความแตกต่างทางการสื่อสาร
ลักษณะการแสดงออก คือ - ไม่สามารถชี้นิ้วบอกความต้องการได้
และไม่แบ่งปันสิ่งของต่างๆ ให้กับคนอื่น - ไม่ส่งเสียงอ้อแอ้
หรือเริ่มพูดเมื่ออายุถึง 16 เดือน - พูดซ้ำในสิ่งที่ผู้อื่นพูดโดยไม่เข้าใจความหมาย - ไม่ตอบสนองต่อการเรียกชื่อ
แต่ตอบสนองต่อเสียงอื่นๆ เช่น เสียงแตร,
เสียงแมว เป็นต้น - ไม่รู้จักชื่อตนเอง
หรือสับสนสรรพนามในการเรียก เช่น แทนตัวเองว่า "เธอ" และเรียกผู้อื่นว่า "ฉัน" - ไม่ต้องการสื่อสาร
เริ่มต้นหรือตอบโต้บทสนทนาไม่ได้ - เล่นบทบาทสมมุติไม่เป็น
เช่น เล่นตุ๊กตาหรือไม่เข้าใจว่าจะจับตุ๊กตาลักษณะใด - อาจสูญเสียภาษาหรือพัฒนาการอื่นๆ
ในช่วงอายุ 15 - 24 เดือน 3. ความแตกต่างทางพฤติกรรม
ลักษณะการแสดงออก คือ - มีพฤติกรรมซ้ำๆ
เช่น โยกตัวไปมา สะบัดมือไปมา เป็นต้น - ชอบทำกิจกรรมซ้ำ
และเป็นประจำ - หมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ
- สนใจสิ่งของเป็นส่วนๆ
เช่น เล่นล้อรถแทนที่จะเล่นรถทั้งคัน เป็นต้น ดังนั้นครอบครัวควรสังเกตความแตกต่างเหล่านี้ในบุตรหลาน
เพราะหากตระหนักถึงสัญญาณออทิสติกได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ครอบครัวจะได้เข้าใจถึงสภาพและอาการของการแสดงออกของโรคนี้ได้มาก
สามารถปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ในการใช้ชีวิตกับผู้ป่วยออทิสติกได้
และสามารถปรับปรุงพัฒนาการของเด็กกลุ่มนี้ได้ดีขึ้น
ที่สำคัญคือช่วยสนับสนุนให้ผู้ที่เป็นออทิสติกสามารถโตขึ้นมาพึ่งพาตนเองและหางานที่เหมาะสมกับความสามารถในการดำรงชีวิตได้ต่อไป